วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555

2 Weeks Wait

หลังจากย้ายตัวอ่อนกลับบ้านคืนนั้นนอนไม่หลับเลย สามีเปิดหนัง Vampire Twilight ภาค3 ปะที่นางเอกท้องอะ  มันก็เครียดๆอยู่นะหนัง  เลยยิ่งนอนไม่หลับ จิตตกมาก ไม่รู้เป็นอะไร  กลางคืนปวดฉี่ตลอด ลุกเข้าห้องน้ำประมาณ 10 รอบ  สามีบ่นว่าคราวนี้ฟาวแน่ๆ สงสัยตัวอ่อนจะไม่อยู่กับเรา  ลุกบ่อยขนาดนี้ เพราะกลับมาบ้าน เค้าให้นอนพัก 2-3 วัน บางคนนอนโรงพยาบาลเลยนะ

เช้าวันรุ่งขึ้น รู้สึกอาการฉี่บ่อยยังไม่หาย แถมด้วยอาการปวดหน่วง เหมือนจะกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เย็นนั้นเลยไปหาหมออายุรกรรม เอายาฆ่าเชื้อที่คนท้องกินได้มา ปวดแสบ ปัสสาวะขัด ทรมานมากๆๆๆ
คิดว่ากรรมอะไรนักหนาของเรา  อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบดีขึ้นหลัง 2 วัน  ระหว่างวันที่เราหยุด สามีไปทำงาน ก็ต้องหาอะไรอุ่นกินเอา สรุปไม่ได้นอนเฉยๆหรอก 


นอนซมป่วยตลอด

หยุดไป 3 วันก็ไปทำงานปกติ แต่พยายามเดินให้น้อยที่สุด  ครบ 1 week ป่วยเป็นหวัด นั่งน้ำมูกไหลทั้งวัน จนต้องไปหาหมอ หมอให้ยาแก้แพ้ที่คนท้องกินได้  Day 8 หลังย้ายตัวอ่อนมีเลือดสีน้ำตาลออกมาเต็มแผ่นแคร์ฟี ไหลออกมาพร้อมไอ้ยาเหน็บ Cyclogest ที่แสนจะน่ารำคาญ เฉอะแฉะนี่แหละ  แต่เลือดออกแค่ตอนนั้นแล้วก็ไม่มีอีกนะ   อาการหวัดก็ยังไม่หาย ไอแล้วก็อ๊วกอีกต่างหาก  กรรมซ้ำกรรมซ้อนจริงๆ เลยตู  แต่เราเป็นคนที่พอมีอะไรสำคัญจะต้องไม่สบายหนักทุกที เช่นตอนจะไปเรียนต่อโทที่อเมริกา 3 วันก่อนบิน โดนไข้หวัดใหญ่เล่นงาน ต้องฉีดยาเลย เป็นหนักมาก เสียงไม่มีเลย   หรือวันก่อนแต่งงาน ก็เป็นหวัด น้ำมูกไหล ไอ จาม



ไปหาหมอขอยาแก้หวัด
 ลุ้นต่อไปอีก 1 อาทิตย์ อาทิตย์หน้าก็จะถึงวันนัดเจาะเลือดฟังผลว่าท้องไม่ท้องแล้ว

Transferring Embryos

และแล้วก็ถึงกระบวนการที่รอคอย คือการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก แล้วรอลุ้นท้อง ไม่ท้อง
พอรอบเดือนของเดือนม.ค.2012 มาวันที่ 2 ก็โทรนัดหมอ เข้าไปเจาะเลือด (ตั้งแต่ทำ IVF มาโดนเจาะเลือดไปเกือบ 10 รอบแล้ว) เสร็จแล้วหมอก็ให้ยา Progynova มากินวันละ 4 เม็ด เพื่อกระตุ้นเยื่อบุให้หนานุ่มรองรับตัวอ่อน พยายาลบอกยานี้กินไปจนท้องเลย ช่วงนี้ก็นัดพบหมอบ้างเพื่อ U/S ดูเยื่อบุว่าหนาพอหรือยัง ตอบสนองต่อยาดีหรือเปล่า  ของเราก็ถือว่าปกติ หนาดี หมอว่า  จากนั้น 5 วันก่อนย้ายตัวอ่อน มียาเหน็บช่องคลอดมาเพิ่ม ชื่อยา Cyclogest เหน็บเช้าเย็น ยาเป็นกระสุนเคลือบขี้ผึ้ง ซึ่งไอ้ยาตัวนี้แหละ ทำเราเจ็บแสบนัก ไว้จะเล่าให้ฟัง

หมอนัดย้ายตัวอ่อนในวันอาทิตย์ที่ 29 ม.ค. 2012 (2555) 6 โมงเช้า ก่อนไปทะเลาะกับสามียกใหญ่ เพราะเค้าช้า เราก็กลัวจะไม่ทัน  นั่งรอลุ้น ตื่นเต้น กระสับกระส่ายมาก เพราะเป็นวันที่สำคัญมากๆที่สุดของกระบวนการ    ก่อนเข้าห้องให้กินน้ำแล้วกลั้นปัสสาวะไว้ เพื่อให้กระเพาะปัสสาวะกดทับมดลูก เวลา U/S หมอจะได้เห็นมดลูกชัดๆ จะได้ใส่ตัวอ่อนง่ายๆ 

กว่าจะได้เรียกเข้าห้องผ่าตัดก็ปาเข้าไป 8 โมง เพราะหมอต้องละลายตัวอ่อนที่ฟรีซไว้ก่อน  พอเข้าไปในห้องผ่าตัด รู้สึกว่าแอร์หนาวมากๆ และปวดฉี่มาก เพราะกลั้นปัสสาวะไว้ตั้งแต่ 6 โมง  เจอหมอ หมอบอกว่าหมอจะใส่เข้าไป 3 ตัวอ่อนนะ (ลืมถามว่ามาจากไหนอะตัวที่ 3 มาถามทีหลังหมอบอกมีตัวที่เลี้ยงไว้อีกตัวมันลุกขึ้นมาสู้ เลยแถมใส่เข้าไปด้วย)  ถามหมอว่าตัวอ่อนที่ละลายออกมารอดหมดมั้ย หมอบอกดูไม่ออก ต้องรีบใส่เข้าไปก่อน  ขั้นตอนนี้ ไม่ต้องฉีดยาสลบ รู้ตัวตลอดเวลา เหมือนเป่าลมอะไรเย็นๆเข้าไป แล้วหมอก็บอกเสร็จแล้ว พยาบาลปริ้นรูป U/S ให้ดูเป็นจุดๆ ในมดลูกว่าเนี่ยแหละตัวอ่อนที่ใส่เข้าไป  พยายาลสวนปัสสาวะออกให้แล้วเข็นขึ้นห้องพักฟื้น ห้ามลุกจากเตียง 2 ชม. ถ้าปวดฉี่ให้เรียกพยาบาลเอาโถมาฉี่บนเตียง




U/S ที่พยาบาลปริ้นมาให้ดู

ตอนอยู่ที่ห้องพักฟื้น รอลุ้นเมื่อไหร่จะผ่าน 2 ชั่วโมงน้า ผ่านปุ๊บ ปวดอึทันที ข้าศึกบุกกะทันหัน ลุกไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็แอบกลัวว่าจะอึเอาตัวอ่อนออกมารึเปล่าว้า  นอนไปจนถึง 5 โมงเย็นก็ชวนสามีกลับบ้านไปหาอะไรกินก่อน  ไปนั่งกินสีลมสเตีกที่ศรีชานะ แม่บอกให้กินปลาเยอะๆ ก็เลยกินสเต๊กปลาแซลมอน 




นอนกลั้นใจ ปวดอึ แต่ห้ามลุกจากเตียง เพราะยังไม่ถึง2ชม.



เอกมาให้กำลังใจรอเฝ้าอยู่


Egg Collection Stage

หลังจากที่ฉีดยากระตุ้นไข่ เป็นแม่ไก่กกไข่ เราได้ไข่มา 11 ฟอง (U/S 4 วันก่อนเก็บไข่)  ถือว่าน้อย หมอบอกบางคนได้ถึง 30 ฟองก็มี แต่อายุเราก็เยอะแล้ว คงหวังมากไม่ได้  แค่นี้ก็โอเคแล้ว

หมอนัดเก็บไข่วันอาทิตย์ที่ 27 พย.2011 (2554)  6 โมงเช้า ต้องงดอาหาร งดน้ำก่อนด้วย เนื่องจากต้องเข้าห้องผ่าตัด และฉีดยาสลบ  ไปนอนรอหมอตั้งแต่ 6 โมงเช้าแต่ได้เข้าห้องผ่าตัดประมาณ 7.30น.




Sleepy and hungry




ติด tag เค้าจะได้เข็นเข้าห้องถูก พักฟื้นห้อง 906


พอ 7.30น. พยาบาลเรียกเข้าห้องผ่าตัด เข้าไปก็โดนให้น้ำเกลือ เจาะผ่านทางหลังมือซ้าย หมอวิสัญญีมาฉีดยาสลบเข้าไปในที่เจาะสายน้ำเกลือ รู้สึกแสบไปทั้งแขนซ้ายตอนยาเดิน แล้วก็สลบไปไม่รู้เรื่อง

ตื่นขึ้นมาอีกที พยาบาลปลุกให้ตื่นบอกว่าเรียบร้อยแล้ว แต่เรายังมึนๆ ลืมตาไม่ขึ้น ซักพักเค้าก็เข็นเราไปห้องพักคนไข้ข้างบน ไปถึงก็กินใหญ่เลย เพราะหิวมาก 



หลักฐาน กินไม่หยุดเลย


เราอยู่ห้องพักถึงบ่าย 2 ก็กลับแล้ว เพราะไม่เจ็บ ไม่รู้สึกอะไรเลย แข็งแรงมาก (เว่อร์) เดินลงไปที่ศูนย์ผู้มีบุตรยากเองเลย เค้าตกใจบอกทำไมไม่โทรบอก จะเอารถเข็นไปรับ

กลับบ้านดีกว่า   หลังจากนั้น 3 วันอีเมลไปถามคุณหมอ ซึ่งคุณหมอสุชาดาใจดีมากตอบทันที ว่าเราเก็บไข่ได้ทั้งหมด 13 ฟอง แต่ใช้ได้จริงแค่ 9 ฟอง เพราะที่เหลือขนาดเล็กไปหรือฝ่อไปบ้าง  หมอเอาไข่ 9 ฟองมาผสมกับเชื้อ แต่รอดมาเป็นเซลล์แค่ 4 ตัว นอกนั้นตายหมด แบ่งเป็น 2 กลุ่ม เกรด B 2 ตัว และเกรด C 2 ตัว ซึ่งเกรด C หมอจะไม่เอามาย้ายเพราะโอกาสติดน้อย  สรุปเราเหลือโอกาสแค่ครั้งเดียวคือไอ้เกรด B ชุดแรกเนี่ยแหละ เฮ้อ เหนื่อยใจเลย เกรด A ก็ไม่มีเลย  คนอื่นเค้าได้กันเป็น 3-4 ชุด freeze ไว้ ถ้าไม่ท้องก็ย้ายตัวอ่อนไปเรื่อยๆ  คุณหมอกรุณาส่ง youtube ภาพเซลล์ตัวอ่อนมาให้ดูด้วย แต่เราก็ดูไม่เป็นหรอก ไว้จะเอามาแปะให้ดูนะ

ระหว่างนี้ก็พักไป 2 เดือนก่อนเพื่อจะทำการย้ายตัวอ่อน เพราะร่างกายโดนกระตุ้นจากการฉีดยากระตุ้นไข่เยอะ เค้าให้เราปรับสภาพให้ปกติ เพื่อเตรียมย้ายตัวอ่อน ปลายเดือนม.ค. 2012

Entering IVF process

(โพสต์นี้เราเขียนย้อนหลัง เพื่อเป็นประโยชน์กับคนที่มีบุตรยากเหมือนเรา)

หลังจากแต่งงานมา 4 ปีโดยไม่เคยคุมกำเนิด แต่ความพยายามในการมีลูกก็ยังไม่สำเร็จ จริง ๆ สงสัยตั้งแต่แต่งปีแรกแล้ว เพราะนับวันไข่ตกมาตลอด ก็ไม่ท้อง ว่าคู่เราจะเข้าข่ายมีบุตรยาก แต่ก็มีแต่คนบอกว่ารอไปก่อน เพิ่งจะปีเดียว ก็รอกันไป กว่าจะรู้ตัวก็ปาเข้าไป 4 ปี อายุเราก็จะเข้า 35 ถ้าไม่มีคงไม่คิดจะมีแล้ว  เลยจูงมือกันไปปรึกษาหมอ

เริ่มไปนวบุตร หมอแนะนำให้ฉีดเชื้อ (IUI) เพราะเชื้อสามีอ่อนมาก แต่มดลูกเราปกติดี เอ้าก็ลองดู เค้าบอกโอกาสติด 15% ก็เลยไม่หวังมาก ตกลงกับสามีว่าจะฉีดเชื้อครั้งเดียว ถ้าไม่ติดทำเด็กหลอดแก้วเลย แล้วก็ไม่ติดจริงๆด้วย



หมอนเรศร์กำลังเตรียมสเปิร์มที่ผ่านการคัดเลือกเพื่อฉีดเข้าโพรงมดลูก

   
Bed rest for 1 hour after IUI

ผ่านไป 6 เดือน รู้สึกว่าการไปนวบุตรที่กรุงเทพ คงไม่ไหว เหนื่อยเดินทาง เพราะต้องหาหมอบ่อย ควรจะหาอะไรที่ใกล้บ้าน ตัดสินใจเข้าไปที่ศูนย์ผู้มีบุตรยากพญาไทศรีราชา (คุณหมอสุชาดา) ตรวจกันอีกรอบนึง คราวนี้ตรวจละเอียด วิเคราะห์น้ำเชื้อฝ่ายชาย ส่วนเราก็โดนเจาะเลือด Ultrasound มดลูก ฉีดสีท่อนำไข่  ที่ทรมานที่สุดก็เห็นจะเป็นฉีดสี เพราะกว่าจะใส่เครื่องมือเข้าไปได้ แถมยังปวดท้องอีก 2 วันพร้อมกับมีเลือดออกหลังฉีดสี  สรุปว่าเราไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่เชื้อสามีอ่อนแอมาก หมอบอกว่าคู่เรายังไงก็มีลูกกันเองไม่ได้ ต้องทำเด็กหลอดแก้ว โอกาส 50%  นั่นเหมือนจะเป็นทางเลือกสุดท้ายเพราะอายุตอนนั้นก้ 34 ปี เราก็เริ่มเลยละกันหมอ  


เข้าสู่กระบวนการ IVF

กระบวนการทำเด็กหลอดแก้วหรือที่เรียกกันว่า ICSI หรือ IVF เป็นการนำไข่กับเชื้ออสุจิมาผสมกันในหลอดทดลอง รอให้แตกตัวเป็นตัวอ่อนหรือที่เรียกว่า Blastocyst ในระยะ 5 วัน แล้วใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูก  คราวนี้ก็เป็นโชคส่วนบุคคลแล้วว่าตัวอ่อนจะฝังตัวเจริญเติบโตต่อไปมั้ย นั่นก็คือท้องหรือไม่ท้อง

เริ่มต้นเดือนพ.ย.2011 พอประจำเดือนมาวันที่ 2 ก็ไปหาหมอ หมอให้ยาฮอร์โมนกระตุ้นไข่ เพื่อให้มีไข่หลายๆฟอง ฉีดเข้าหน้าท้องทุกคืนเวลาเดียวกันเป็นเวลา 5 วันมั้ง  เราเลือกที่จะเอายากลับมาฉีดเองเพราะขี้เกียจไปโรงพยาบาลทุกวัน

จากนั้นเปลี่ยนยาเป็นอีกตัว ฉีดไปอีก 3-4 วัน ยาตัวนี้ฉีดเสร็จแล้วรอบๆที่ฉีดจะแดงแสบไปซักพัก

แล้ว2วันก่อนเก็บไข่ ก็ไปให้พยายาลฉีดยาให้ไข่ตกตามเวลา อันนี้ฉีดเข้าสะโพก ต้องให้พยาบาลฉีด เข็มยาวมากๆๆๆ  เจ็บถึงทรวง


ทรมานเพื่อลูก



เดี๋ยวไปต่ออีก post นะเรื่องของขั้นตอนการเก็บไข่และรอย้ายตัวอ่อน (โปรดติดตามตอนต่อไป)



วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2555

14 weeks Pregnancy

ตอนนี้อายุครรภ์ 14 weeks แล้ว อาการปวดท้องหน่วงๆ ปวดแบบเหนื่อยๆมดลูกบอกไม่ถูก ก็ยังปวดอยู่ อาการฉี่บ่อย ก็ฉี่น้อยลงนิดนึง เริ่มกินได้มากขึ้น จากตอน 12 weeks แรกที่ไม่อยากกินอะไร เบื่ออาหารและน้ำหนักลด  แต่น้ำหนักยังไม่เพิ่มจากตอนก่อนท้อง




U/S picture at 12 weeks with baby's heartbeat




Ultrasound at Dr.Suchada's office


My belly at 14 weeks